ขอบคุณข้อมูลจาก "มติชนออนไลน์"
เปิดเผยวิจัยองค์การอนามัยโลก คลื่นจากโทรศัพท์เสี่ยงเนื้องอกในสมอง เตือนอย่าวางมือถือใกล้ศีรษะ หรือหัวเตียง
นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) เปิดเผยว่า เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หน่วยงานวิจัยด้านมะเร็งขององค์การอนามัยโลก (IARC หรือ International Agency for Research on Cancer) ได้เผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการที่ว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นปัจจัยก่อมะเร็งประเภท 2B
โดยงานวิจัยระบุว่า การใช้หูแนบโทรศัพท์มือถือโดยตรง จะทำให้ผู้ใช้ได้รับพลังงานจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามากกว่าการใช้อุปกรณ์แฮนด์ฟรีระบบบลูทูธถึง 100 เท่าเลยทีเดียว โดยเฉพาะโทรศัพท์ GSM จะปล่อยพลังงานมากกว่าเครื่องโทรศัพท์ 3G มากถึง 100 เท่าเช่นเดียวกัน
อย่าง ไรก็ตาม การเกิดมะเร็งในสมอง ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยการดูดซับพลังงานที่สมองของแต่ละบุคคลด้วย โดยสมองของเด็กมีโอกาสที่จะได้รับคลื่นมากกว่าผู้ใหญ่ 2 เท่า และไขกระดูกของกะโหลกศีรษะเด็กจะได้รับคลื่นมากกว่าผู้ใหญ่ 10 เท่า และปริมาณการดูดซับยังขึ้นอยู่กับการออกแบบตัวเครื่องและเสาอากาศ ลักษณะการใช้ และระดับสัญญาณระหว่างตัวเครื่องและสถานีฐานอีกด้วย
นอกจากนี้ ผลการศึกษายังพบด้วยว่า กลุ่มที่ใช้โทรศัพท์มากกว่า 1,640 ชั่วโมง จะมีความเสี่ยงมากขึ้นต่อการเป็นมะเร็งสมองชนิด Glioma หรือเนื้องอกในสมองข้างเดียวกับที่ใช้โทรศัพท์ ซึ่งเป็นส่วนที่ได้รับคลื่นสูงที่สุด
พร้อมกันนี้ นายประวิทย์ ได้กล่าวแสดงความเป็นห่วงคนไทยด้วยเช่นกัน เนื่องจากผลวิจัยดังกล่าวมีความสอดคล้องกับ ผลสำรวจของสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) ที่ร่วมกับมหาวิทยาลัยอัญสัมชัญหรือเอแบคโพล เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่า คนไทยมีพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการได้รับคลื่นสัญญาณที่นอกจากการใช้งาน โดยพบว่า



ดังนั้น นายประวิทย์ จึงได้กล่าวเตือนมายังคนไทยว่า หาก ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือแล้ว ก็ควรวางไว้ให้ห่างตัวโดยเฉพาะศีรษะ โดยไม่ควรวางไว้ที่หัวเตียงและเปิดเครื่องทิ้งไว้ เพื่อลดความเสี่ยงของการได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าโดยไม่จำเป็น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น